หลักสูตรที่เปิดสอน

โรงเรียนภาษาและคณิตศาสตร์ปัญญาจรัส (ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ)

เน้นคุณภาพ ปัจจุบันมี 2 สาขา เท่านั้น คือ สาขาบางมด และสาขาเมเจอร์รัชโยธิน โปรดระวังผู้แอบอ้าง

IELTS (International English Language Testing System)

The Bright Brain เป็นศูนย์ตัวแทนรับสมัครสอบ IELTS (ไอเอล) ของ IDP

IELTS  เรียน IELTS, สมัครสอบ IELTS
 


IELTS (ไอเอล) คืออะไร?

IELTS (International English Language Testing System) หรือการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ประเมินความสามารถด้านภาษาของผู้สมัครสอบที่ต้องการ เรียน หรือทำงานในสถานที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษ ในการสื่อสาร การสอบ IELTS (ไอเอล) ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบอย่างมีประสิทธิภาพใน 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และ การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณ์และ คำศัพท์ในการใช้ภาษา

IELTS (ไอเอล) เป็นตัวสอบที่ร่วมมือกันระหว่าง the University of Cambridge ESOL Examinations (Cambridge ESOL) บริติช เคานซิล และIDP : IELTS Australia ซึ่งการสอบ IELTS (ไอเอล) ถือได้ว่าเป็นตัวสอบที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐาน ระดับนานาชาติสูงสุด ซึ่งครอบคลุมทักษะทางภาษาทั้ง 4 ทักษะไม่ว่าจะเป็น การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด IELTS (ไอเอล) ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยและบริษัทต่างๆในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS (ไอเอล) ยังเป็นที่ยอมรับของสถาบัน กองตรวจคนเข้าเมือง และ องค์กรของรัฐบาลอีกหลายแห่ง

สำหรับการสอบ IELTS (ไอเอล) ผู้สมัครสอบ Ielts ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี
ในการลงทะเบียนสอบ IELTS (ไอเอล) ผู้สมัครต้องใช้หลักฐานดังต่อไปนี้


ใบสมัคร IELTS (ไอเอล)

*คู่มือการลงทะเบียนปี 2558(กรุงเทพ)
*คู่มือการลงทะเบียนปี 2558 (เชียงใหม่)
*หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา ที่ยังไม่หมดอายุจนกระทั่งวันสอบ
*ป้จจุบัน ไม่ต้องใช้รูปถ่ายแล้วนะคะ
***หมายเหตุ: ผู้พิการสามารถยื่นเรื่องขอจัดสอบ Ielts (ไอเอล) เป็นกรณีพิเศษได้กับเจ้าหน้าที่จัดสอบ Ielts (ไอเอล) โดยตรง

Documents for registration (IDP)

 

  • Completed  and  signed Application Form (ติดต่อรับที่ IDP หรือที่ The Bright Brain ได้)
  • Completed and singed Registration Guide  (ติดต่อรับที่ IDP หรือที่ The Bright Brain ได้)
  • IELTS Fee (ค่าสมัครสอบ IELTSไอเอล 6,900 บ.)
  • Original Thai National ID Card or Passport with 1 signed Copy (สำเนาบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต)

ค่าสอบ IELTS (ไอเอล)

สมัครสอบ IELTS (ไอเอล) กับบริติช เคานซิล British Council  ค่าสมัครสอบ Regular IELTS 6,900บาท  
สมัครสอบ IELTS (ไอเอล) กับ IDP  ค่าสมัครสอบ IELTS Regular 6,900 บาท IELTS UKVI (ไอเอล ยูเควีไอ) ค่าสมัครสอบ 8,800 บาท Life Skills ค่าสมัครสอบ  7,395 บาท


ผู้สมัครจะต้องชำระค่าสมัครสอบ Ielts (ไอเอล) ล่วงหน้าก่อนวันสอบและไม่สามารถขอรับค่าธรรมเนียมคืนหรือขอเปลี่ยนเป็นรูปแบบใดๆ ได้เมื่อได้ลงทะเบียนสอบ Ielts (ไอเอล) เรียบร้อยแล้ว ถ้าผู้สมัครไม่สามารถมาสอบ Ielts (ไอเอล) ในวันสอบด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ผู้สมัครสามารถขอเปลี่ยนวันสอบ Ielts (ไอเอล) เป็นวันสอบครั้งถัดไป หรือขอรับค่าธรรมเนียมสอบ Ielts (ไอเอล) คืนได้ส่วนหนึ่ง โดยผู้สมัครจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ซึ่งออกโดย โรงพยาบาลรัฐบาล และต้องยื่นให้ศูนย์สอบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันสอบ Ielts (ไอเอล)
ศูนย์สอบ Ielts (ไอเอล) จะปิดรับสมัคร 3 วันก่อนวันสอบ Ielts (ไอเอล) หรือเมื่อวันสอบ Ielts (ไอเอล) ในรอบนั้นเต็ม
ในกรณีที่สถาบันการศึกษาหรือกลุ่มผู้สนใจต้องการให้จัดสอบ Ielts (ไอเอล) พิเศษสอบสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สอบ Ielts (ไอเอล) โดยตรงได้


คลิก>>> ตารางเรียน IELTS สอนสด online

ติดต่อ 086-786-4394, 099-465-3936 (ทุกวัน 10.00-19.00 น) หรือ Line ID  @thebrightbrain
ทัก/สอบถามคอร์ส แอดไลน์คลิ๊ก>> https://line.me/R/ti/p/@thebrightbrain 

ผลการสอบ IELTS (ไอเอล) และความหมายของคะแนน IELTS (ไอเอล)

  1. ผลการสอบ IELTS (ไอเอล) จะประกาศลงในใบรายงานผลการสอบอย่างเป็นทางการ โดยรายงานผลเป็นความสามารถทางภาษาอังกฤษโดยรวม และ ความสามารถในแต่ละทักษะการฟัง การอ่าน การเขียนและการพูด
  2. ผู้สอบ Ielts (ไอเอล) สามารถขอรับผลการสอบ Ielts (ไอเอล) ได้ที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งผลการสอบ Ielts (ไอเอล) จะออกในวันศุกร์ที่สองตั้งแต่เวลา 13.00 นาฬิกาเป็นต้นไป หรือ 13 วันหลังจากการสอบ Ielts (ไอเอล) โดยสามารถขอรับได้จนถึงวันจันทร์ หรือรอรับผลการสอบ Ielts (ไอเอล) ทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษซึ่งจะจัดส่งออกไปในวันอังคาร (17 วันหลังจากการสอบ Ielts (ไอเอล))
  3. บริติซ เคานซิลจะไม่แจ้งผลการสอบ Ielts (ไอเอล) ทางโทรศัพท์ โทรสาร หรืออีเมล ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
  4. ผลคะแนน Ielts (ไอเอล) แบ่งออกเป็น 9 ระดับ ตั้งแต่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จนถึงระดับผู้มีความสามารถทางภาษาดีเลิศ
  5. โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยจะรับผลการสอบ IELTS (ไอเอล) ที่มีคะแนนรวม 6 หรือ 6.5 ในการเข้าศึกษาต่อ อย่างไรก็ตามผู้สอบ Ielts (ไอเอล) ควรตรวจสอบระดับผลคะแนน Ielts (ไอเอล) ที่เป็นที่ต้องการ กับทางสถาบันการศึกษาที่ได้สมัครไว้ด้วย
  6. ผู้สอบสามารถสมัครสอบ Ielts (ไอเอล) ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

รูปแบบการสอบ IELTS (ไอเอล)


จะแบ่งเป็น 3 ประเภท

1. IELTS Regular  

รูปแบบของการสอบ IELTS
การสอบ IELTS เป็นการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน และผู้สอบจะได้รับใบรายงานผลการสอบโดยแยกเป็นแต่ละส่วนทั้ง 4 ทักษะ ลักษณะของคะแนนในการสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยเริ่มต้นที่ตั้งแต่ระดับที่ 1 ไปจนถึงระดับที่ 9 ซึ่งสามารถวัดระดับความรู้ความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างถูกต้อง คุณจะต้องสอบการฟัง การอ่านและการเขียนในวันเดียวกันทั้งหมดโดยไม่มีการหยุดพักระหว่างการสอบ ส่วนการพูดคุณสามารถเลือกที่จะสอบวันเดียวกันในช่วงบ่ายหรือเลือกสอบในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ในสัปดาห์เดียวกันก็ได้

การสอบ IELTS แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1.    เพื่อการศึกษาต่อ (Academic Modules)
เป็นการทดสอบความพร้อมเพื่อศึกษาต่อในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญาเอก
2.    เพื่อการฝึกอบรม (General Training Modules)
สำหรับผู้ที่วางแผนใช้ภาษาเพื่อการฝึกอบรมหรือ ทำงานในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะใช้วัดความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐาน และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศนิวซีแลนด์ หรือประเทศออสเตรเลีย

รายละเอียดการสอบ IELTS ทั้ง 4 ทักษะ

1.    การสอบการฟัง (Listening) 30 นาที
ผู้สอบต้องฟังเนื้อเรื่องจากเครื่องเล่น CD ซึ่งเนื้อหาจะประกอบไปด้วยการสนทนา และบทพูด รวมทั้งการออกเสียงผู้สอบจะได้ฟังเทปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่จะมีเวลาให้ในการอ่านคำถาม และเขียนคำตอบ และในช่วงท้ายจะมีเวลาให้คัดลอกและตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบใน Answer Sheet อีก 10 นาที
2.    การสอบการอ่าน (Reading) 60 นาที
มีเนื้อเรื่องให้อ่าน 3 บทความ พร้อมด้วยคำถามที่ต้องปฎิบัติตาม ซึ่งเนื่อหาเหล่านี้ได้มาจากหนังสือ นิตยสาร และ หนังสือพิมพ์ ในทุกๆ เรื่องเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเฉพาะทางใดทางหนึ่ง รวมทั้ง 3 บทความ จะมีคำถามทั้งหมดจำนวน 40 ข้อ และให้เวลาทั้งหมด 60 นาที ดังนั้นเวลาในการทำจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณข้อละ 1.5 นาที
3.    การสอบการเขียน (Writing) 60 นาที
จะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง ให้เวลา 60 นาที เรื่องแรก คือการเขียนในลักษณะอธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง เราจะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่เด่นๆ โดยที่ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำเป็นอย่างต่ำ เรื่องที่สอง คือ การเขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออก ของปัญหาหรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
4.    การสอบการพูด (Speaking) 11-14 นาที
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆ ไป การใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนที่สอง กรรมการจะมีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที โดยจะมีบัตรคำถามมาให้ และจะให้เราพูดคนเดียวประมาณ 3-4 นาที และส่วนสุดท้ายจะมีลักษณะคล้ายกับการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ได้จากส่วนที่สอง
 
2.IELTS for UKVI

IELTS for UKVI คืออะไร ?
การทดสอบ IELTS เพื่อใช้ในการสมัครวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักร (UKVI)

รูปแบบการสอบ IELTS for UKVI

IELTS for UKVI เป็นการทดสอบการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ผู้สอบจะได้รับใบรายงานผลการสอบโดยแยกเป็นแต่ละส่วนทั้ง 4 ทักษะ ลักษณะของคะแนนในการสอบจะถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยเริ่มต้นที่ตั้งแต่ระดับที่ 1 ไปจนถึงระดับที่ 9 ซึ่งสามารถวัดระดับความรู้ความสามารถ ในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างถูกต้อง ผู้สอบจะต้องสอบการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูดในวันเดียวกันทั้งหมด โดยจะมีการบันทึกวีดีโอผู้สอบ ตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียนไปจนสิ้นสุดการทดสอบ ตามเงื่อนไขของกองการตรวจคนเข้าเมืองแห่งสหราชอาณาจักร

ก่อนจะก้าวเข้าห้องสอบมาดูกันก่อนว่าต้องเจอกับข้อสอบแบบไหน ?

·         การสอบ Listening 30 นาที
ผู้สอบต้องฟังเนื้อเรื่องจาก CD ซึ่งเนื้อหาจะประกอบไปด้วยการสนทนาและบทพูด รวมทั้งการออกเสียงผู้สอบจะได้ฟังเทปเพียงครั้งเดียวเท่านั้นแต่จะมีเวลาให้ในการอ่านคำถามและเขียนคำตอบ และในช่วงท้ายจะมีเวลาให้คัดลอกและตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบใน answer sheet อีก 10 นาที
·         การสอบ Reading 60 นาที
มีเนื้อเรื่องให้อ่าน 3 บทความ พร้อมด้วยคำถามที่ต้องปฎิบัติตาม ซึ่งเนื่อหาเหล่านี้ได้มาจากหนังสือ นิตยสาร และ หนังสือพิมพ์ ในทุกๆเรื่องเป็นเรื่องทั่วไป ไม่ได้เจาะจงเฉพาะทางใดทางหนึ่ง รวมทั้ง 3 บทความจะมีคำถามทั้งหมดจำนวน 40 ข้อและให้เวลาทั้งหมด 60 นาที ดังนั้นเวลาในการทำจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณข้อละ 1.5 นาที
·         การสอบ Writing 60 นาที
จะแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง ให้เวลา 60 นาที เรื่องแรก คือ เขียนในลักษณะอธิบายข้อมูลที่ให้มาในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนผัง เราจะต้องมีการเปรียบเทียบข้อมูลต่าง ๆ ที่เด่นๆ โดยที่ต้องเขียนอย่างน้อย 150 คำเป็นอย่างต่ำ เรื่องที่สอง คือ เขียนเรียงความหรือรายงานอย่างเป็นทางการ และเป็นการแสดงความคิดเห็น การหาทางออก ของปัญหา หรือวิจารณ์หัวข้อที่ให้มา โดยต้องเขียนอย่างน้อย 250 คำ
·         การสอบ Speaking 11-14 นาที
แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นการพูดคุยเรื่องทั่วๆไป การใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนที่สอง กรรมการจะมีเวลาให้เตรียมตัวก่อนพูด 1 นาที โดยจะมีบัตรคำถามมาให้ และจะให้เราพูดคนเดียวประมาณ 3-4 นาที และส่วนสุดท้ายจะมีลักษณะคล้ายกับการพูดโต้ตอบกันในหัวข้อที่ได้จากส่วนที่สอง

3.การสอบ IELTS Life Skills
 
เป็นการสอบทักษะการพูดและฟังเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วยการสอบ 2 ประเภท

IELTS Life Skills – A1 (16 - 18 นาที)
IELTS Life Skills – B1 (22 นาที)
 
การสอบ Life Skills
 
การสอบ IELTS Life Skills คือข้อสอบวัดระดับการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ผู้สอบจะถูกจับคู่ (ด้วยการสุ่ม) กับผู้สอบอีกท่านหนึ่ง ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษใกล้เคียงกัน และผู้สอบทั้งสองท่านจะต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษตามหัวข้อที่กำหนด โดยมีอาจารย์เจ้าของภาษาเป็นผู้ดำเนินการสอบ
 
ก่อนจะก้าวเข้าห้องสอบมาดูกันก่อนว่าต้องเจอกับข้อสอบแบบไหน ?
 
การสอบIELTS Life Skills จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ดังนี้
 
ส่วนแรก ผู้สอบจะต้องตั้งคำถามและตอบคำถามในหัวข้อทั่วๆ ไป ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนที่สอง จะเป็นการสอบการฟัง และการพูด
การทดสอบการฟังสำหรับระดับ A และ B ผู้สอบจะฟังเรื่องจากซีดีเพื่อทดสอบทักษะการฟังด้านการจับใจความ
ในขณะที่ฟังซีดี ผู้สอบสามารถจดคำตอบลงในกระดาษ เพื่อเตรียมในการตอบคำถามได้
ผู้สอบทั้งสองท่านจะต้องสนทนากันในหัวข้อที่ได้ฟังจากซีดี
สำหรับการสอบระดับ B1 จะมีสิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ การวางแผนคิดกิจกรรมร่วมกันกับผู้สอบอีกท่านหนึ่ง
 
ผู้สอบจะถูกประเมินความสามารถการใช้ภาษา 4 ด้านดังนี้

การรับข้อมูล
การส่งข้อมูล
การพูดเพื่อการสื่อสาร
การโต้ตอบไปมา
ในระหว่างการสอบ ผู้สอบสามารถจดคำตอบเพื่อเตรียมตอบคำถามได้ซึ่ง เจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบจะไม่หักคะแนนการเตรียมคำตอบของคุณ โดยจะให้คะแนนเฉพาะทักษะการพูดและการฟังในระหว่างการสอบเท่านั้น
 
ตัวอย่างหัวข้อในการสอบ IELTS Life Skills ได้แก่
ครอบครัว เพื่อน และคนรู้จัก
การงาน และสุขภาพ
สภาพภูมิอากาศ
แหล่งท่องเที่ยว หรือช้อปปิ้ง
กิจกรรมยามว่าง (Hobby) และการเดินทาง (traveling)
การศึกษา และอบรม (Education and Training)

คลิก>>> ตารางเรียน IELTS สอนสด online

ติดต่อ 086-786-4394, 099-465-3936 (ทุกวัน 10.00-19.00 น) หรือ Line ID  @thebrightbrain
ทัก/สอบถามคอร์ส แอดไลน์คลิ๊ก>> https://line.me/R/ti/p/@thebrightbrain 


ตาราง วันสอบ IELTS ปี 2020 (2563)

IELTS
TEST DATES 2020
BANGKOK CHIANG
MAI
KHON
KEAN
HAT
YAI
KO-
RAT
  Thu Sat Sat Sat Sat Sat Sat Sat
January 16 4 11* 18* 4, 18* 4,11* 11* -
February 13* 1* 8 22 1*, 22 1*,22 22 -
March 5 7* 14 21* 7*,21* 17,21* 21* -
April 30 4* 11 18* 4*,18* 4*,18* 18* -
May 21* 9 16 30* 9, 16 9, 30* 30* -
June 18 6 13* 20* 6,20* 6, 20* 20* 13*
July 2 11* 18 25* 11*,25* 11*, 18 25* -
August 6 8* 22* 29 8*, 22* 8*, 29 22* -
September 17 5 12* 26* 5, 26* 12*, 26* 26* 5
October 15 10 24* 31* 10, 24* 10, 31* 31* -
November 12* 7 21* 28 7, 21* 7, 21* 21* -
December 3 5* 12 19* 5*, 12 12,19* 19* -

Those dates with asterisks(*) are Academic and General Training Candidate Sessions 
Those dates without asterisks are Academic Candidate Only Sessions 
Those dates in color are Thursday Testing.

IELTS for UKVI Test Schedule - 2020
(ตารางสอบ UKVI ปี 2563)

 

Month Date
January 4, 11, 18
February 1, 8 , 22
March 7, 14, 21
April 4, 11 , 18
May 9, 16 , 30
June 6, 13, 20
July 11, 18, 25
August 8, 22, 29
September 5, 12, 26
October 10, 24, 31
November 7, 21, 28
December 5, 12, 19

 

IELTS
TEST DATES 2019
BANGKOK CHIANG
MAI
KHON
KEAN
HAT
YAI
KO-
RAT
  Thu Sat Sat Sat Sat Sat Sat Sat
January 17 5* 12 19* 5*, 12 12, 19* 19* 5*
February 14* 2 9* 23 9*,23 9*,23 2 2
March 14 2* 9 23* 2*,23* 9*,23 2 -
April 25 6* 13 27* 6*,27* 13,27* 6* -
May 23 4 11* 18 11*,18 11*,18 4 4
June 13 1* 22 29* 1*, 29* 1*,22 29* 29*
July 18 6* 20 27* 6*,27* 6,27* 27* -
August 1 10 17* 24 10, 24 17*, 24 17* -
September 12 7* 14 28* 7*,14 7*, 28* 28* -
October 10 12* 19 26* 12*,19 19 26* 26*
November 7* 2 16 23*, 30 2,23* 2,23* 16 -
December 12 7 14*   7*, 14* 7* 14* -

Those dates with asterisks(*) are Academic and General Training Candidate Sessions 
Those dates without asterisks are Academic Candidate Only Sessions 
Those dates in color are Thursday Testing.


IELTS for UKVI Test Schedule - 2019

Month Date
January 5, 12, 19
February 2, 9 , 23
March 2, 9 , 23
April 6, 13, 27
May 4, 11, 18
June 1, 22, 29
July 6, 20, 27
August 10, 17, 24
September 7, 14, 18
October 12, 19, 26
November 2,16, 23, 30
December 7, 14

 

 

ผลคะแนน IELTS (ไอเอล) BAND 0  ถึง BAND 9   ดังนี้

The IELTS 9-band scale

Each band corresponds to a level of English competence. All parts of the test and the Overall Band Score can be reported in whole and half bands, eg 6.5, 7.0, 7.5, 8.0.

Band 9: Expert user: 
Has fully operational command of the language: appropriate, accurate and fluent with complete understanding.

Band 8: Very good user: 
Has fully operational command of the language with only occasional unsystematic inaccuracies and inappropriacies. Misunderstandings may occur in unfamiliar situations. Handles complex detailed argumentation well.

Band 7: Good user: 
Has operational command of the language, though with occasional inaccuracies, inappropriacies and misunderstandings in some situations. Generally handles complex language well and understands detailed reasoning.

Band 6: Competent user:
Has generally effective command of the language despite some inaccuracies, inappropriacies and misunderstandings. Can use and understand fairly complex language, particularly in familiar situations.

Band 5: Modest user:
Has partial command of the language, coping with overall meaning in most situations, though is likely to make many mistakes. Should be able to handle basic communication in own field.

Band 4: Limited user: 
Basic competence is limited to familiar situations. Has frequent problems in understanding and expression. Is not able to use complex language.

Band 3: Extremely limited user:
Conveys and understands only general meaning in very familiar situations. Frequent breakdowns in communication occur.

Band 2: Intermittent user:
No real communication is possible except for the most basic information using isolated words or short formulae in familiar situations and to meet immediate needs. Has great difficulty understanding spoken and written English.

Band 1: Non-user: 
Essentially has no ability to use the language beyond possibly a few isolated words.

Band 0: Did not attempt the test: 
No assessable information provided.

****Cambridge ESOL British Council and IDP Education Australia: IELTS Australia reserve the right to cancel any IELTS Test****
 

สอบถามข้อมูล IELTS (ไอเอล) เพิ่มเติม
http://www.britishcouncil.org
http://www.ielts.idp.co.th
http://www.ielts.org